ล่าสุด “อัยการ” สั่งฟ้อง 17 ราย “บอสพอล-บอสกันต์” ไม่รอด คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน ขณะที่ 2 บอส ‘มิน พีชญา’ และ ‘แซม ยุรนันท์’ รอด เตรียมปล่อยตัวเร็วๆ นี้

อัยการมีคำสั่งครั้งสำคัญในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 โดยมีมติสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 17 ราย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงและบุคคลสำคัญของบริษัท โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ รวมอยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกสั่งฟ้องด้วย

ในขณะเดียวกัน อัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้องนักแสดงชื่อดังสองราย ได้แก่ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือมิน และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือแซม เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานที่มีไม่เพียงพอที่จะดำเนินคดีกับทั้งสองคน โดยคาดว่าทั้งคู่จะได้รับการปล่อยตัวในเร็วๆ นี้
สำหรับความเป็นมาของคดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยเป็นคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 รวมถึงความผิดฐานฟอกเงิน

ในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกสั่งฟ้องประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงหลายราย อาทิ
1. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1
2. นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2
3. นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3
4. นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4
5. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5
6. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผู้ต้องหาที่ 6
7. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7
8. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโชดา ผู้ต้องหาที่ 8
9. นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9
10. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผู้ต้องหาที่ 10
11. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11
12. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี่ ผู้ต้องหาที่ 12
13. นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13
14. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป้อบ ผู้ต้องหาที่ 14
15. นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15
16. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16
17 นายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19

ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหาหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย การร่วมกันฉ้อโกงประชาชน การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การฝ่าฝืนพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง โดยคดีนี้ถือเป็นคดีพิเศษที่ 115/2567 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ